
วัดนอกจากจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยพุทธแล้ว วัดหลายๆแห่งยังเป็นแหล่งรวมงานพุทธศิลป์ชั้นเลิศ ดังเช่นวัดป่าสว่างบุญ แห่ง ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
วัดแห่งนี้ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2528 โดย หลวงพ่อสมชาย ปุญญมโน บนเนื้อที่ กว่า 400 ไร่ ซึ่งท่านได้พลิกฟื้นพื้นที่เขาหัวโล้นอันแห้งแล้งให้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแมกไม้ใหญ่น้อยอันร่มรื่นเป็นธรรมชาติ เหมาะต่อการปฏิบัติธรรมมาก
สำหรับสิ่งน่าสนใจที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของวัดป่าสว่างบุญก็คือ "พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ" ที่ประชาชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อสมชายทั้งในสระบุรีและจังหวัดอื่นๆได้พร้อมใจกันสร้างในปี พ.ศ. 2548 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2550
พระมหารัตนโลหะเจดีย์ฯ มีความโดดเด่นสวยงามแปลกตากว่าเจดีย์ทั่วไปตรงที่มียอดถึง 500 ยอด จนหลายๆคนพากันเรียกขานเจดีย์แห่งนี้ใหม่ว่า "มหาเจดีย์ 500 ยอด" หรือ"เจดีย์ 500 ยอด"
เจดีย์แห่งนี้ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เมตร จำนวน 9 ชั้น มีเจดีย์ประธานองค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีองค์เจดีย์รายองค์เล็กตั้งลดหลั่นกันลงมาอยู่รอบๆทิศ โดยมีซุ้มประตูทางขึ้นทั้งสี่มุมทำเป็นบันไดขึ้นไปยังองค์เจดีย์ที่ตั้งอยู่ทางด้านบน ตัวองค์เจดีย์เป็นปูนปั้นรูปแบบสวยงามประณีตเคลือบสีทองทั้งหมดทุกองค์
ในเจดีย์องค์ใหญ่ครอบองค์เจดีย์องค์เล็กภายในพระบรมสารีริกธาตุไว้อีกชั้นหนึ่ง เป็นเจดีย์ปูนปั้นประดับกระจกทับทิมโดยอย่างสวยงาม ส่วนตามฝาผนังน่าชมไปด้วยงานประดับกระจกสีจำลองพระธาตุสำคัญๆของเมืองไทยและงานศิลปะอินเดียลวดลายต่างๆ ในขณะที่ภายในยอดของเจดีย์รายนั้นก็ได้อัญเชิญบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากที่ต่างๆมาบรรจุไว้ภายใน
นอกจากเจดีย์ 500 ยอดแล้ว วัดป่าสว่างบุญยังมีสิ่งน่าสนใจ อาทิ พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 84,000 องค์ พระอุโบสถ อาศรมรูปทรงสถูปดับขันธ์ปรินิพาน พระสัจจะเจดีย์ รวมถึงพระพุทธรูปที่มีความโดดเด่นทั้งพุทธลักษณะและวัสดุการก่อสร้างจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปหินปางปรินิพพานยาว 10.59 เมตรที่สร้างด้วยหินชิ้นเดียวใหญ่ที่สุดในเมืองไทย พระพุทธมหาทานสว่างบุญ ปางเชียงแสนหนึ่ง หน้าตักกว้าง 109 นิ้ว ที่ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ พระพุทธรูปแกะหินหนัก 30 ตัน พระยืนบนเขา พระหินทราย เป็นต้น
วัดนอกจากจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยพุทธแล้ว วัดหลายๆแห่งยังเป็นแหล่งรวมงานพุทธศิลป์ชั้นเลิศ ดังเช่นวัดป่าสว่างบุญ แห่ง ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
วัดแห่งนี้ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2528 โดย หลวงพ่อสมชาย ปุญญมโน บนเนื้อที่ กว่า 400 ไร่ ซึ่งท่านได้พลิกฟื้นพื้นที่เขาหัวโล้นอันแห้งแล้งให้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแมกไม้ใหญ่น้อยอันร่มรื่นเป็นธรรมชาติ เหมาะต่อการปฏิบัติธรรมมาก
สำหรับสิ่งน่าสนใจที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของวัดป่าสว่างบุญก็คือ "พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ" ที่ประชาชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อสมชายทั้งในสระบุรีและจังหวัดอื่นๆได้พร้อมใจกันสร้างในปี พ.ศ. 2548 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2550
พระมหารัตนโลหะเจดีย์ฯ มีความโดดเด่นสวยงามแปลกตากว่าเจดีย์ทั่วไปตรงที่มียอดถึง 500 ยอด จนหลายๆคนพากันเรียกขานเจดีย์แห่งนี้ใหม่ว่า "มหาเจดีย์ 500 ยอด" หรือ"เจดีย์ 500 ยอด"
เจดีย์แห่งนี้ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เมตร จำนวน 9 ชั้น มีเจดีย์ประธานองค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีองค์เจดีย์รายองค์เล็กตั้งลดหลั่นกันลงมาอยู่รอบๆทิศ โดยมีซุ้มประตูทางขึ้นทั้งสี่มุมทำเป็นบันไดขึ้นไปยังองค์เจดีย์ที่ตั้งอยู่ทางด้านบน ตัวองค์เจดีย์เป็นปูนปั้นรูปแบบสวยงามประณีตเคลือบสีทองทั้งหมดทุกองค์
ในเจดีย์องค์ใหญ่ครอบองค์เจดีย์องค์เล็กภายในพระบรมสารีริกธาตุไว้อีกชั้นหนึ่ง เป็นเจดีย์ปูนปั้นประดับกระจกทับทิมโดยอย่างสวยงาม ส่วนตามฝาผนังน่าชมไปด้วยงานประดับกระจกสีจำลองพระธาตุสำคัญๆของเมืองไทยและงานศิลปะอินเดียลวดลายต่างๆ ในขณะที่ภายในยอดของเจดีย์รายนั้นก็ได้อัญเชิญบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากที่ต่างๆมาบรรจุไว้ภายใน
นอกจากเจดีย์ 500 ยอดแล้ว วัดป่าสว่างบุญยังมีสิ่งน่าสนใจ อาทิ พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 84,000 องค์ พระอุโบสถ อาศรมรูปทรงสถูปดับขันธ์ปรินิพาน พระสัจจะเจดีย์ รวมถึงพระพุทธรูปที่มีความโดดเด่นทั้งพุทธลักษณะและวัสดุการก่อสร้างจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปหินปางปรินิพพานยาว 10.59 เมตรที่สร้างด้วยหินชิ้นเดียวใหญ่ที่สุดในเมืองไทย พระพุทธมหาทานสว่างบุญ ปางเชียงแสนหนึ่ง หน้าตักกว้าง 109 นิ้ว ที่ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ พระพุทธรูปแกะหินหนัก 30 ตัน พระยืนบนเขา พระหินทราย เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านั้น วัดป่าสว่างบุญยังมีโครงการที่จะสร้าง "พระพุทธสีหไสน์ยาสน์" ในรูปแบบศิลปะอินเดีย ยาว 145 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
อย่างไรก็ตามแม้วัดป่าสว่างบุญจะมากมายไปด้วยสิ่งชวนชม ชวนสักการะบูชา แต่วัดแห่งนี้ก็ไม่เคยลืมกิจวัตรของสงฆ์และการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อย่างเช่น การปฏิบัติธรรม การฝึกสมาธิ โดยคงไว้ซึ่งความสงบร่มรื่นเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการขัดเกลาจิตใจของผู้ที่มาเข้าวัดให้สงบร่มเย็นนั่นเอง